ความเป็นมาของโครงการ

มุมมองของภาคอุตสาหกรรม
ในโลกยุคเศรษฐกิจใหม่ที่มีการแข่งขันสูงนั้น แต่ละองค์กรต้องมีการปรับตัวและพัฒนาองค์กรโดยมุ่งเน้นให้พนักงานทุกคนมีความกระตือรือร้นที่จะพัฒนาตนเอง และสร้างความรู้อยู่ตลอดเวลาเพื่อเพิ่มพูนศักยภาพของตนเองและองค์กร ทำให้เกิดความก้าวหน้าในการดำเนินกิจการ และนำไปสู่เป้าหมายขององค์กรที่เรียกว่า องค์การแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization) ซึ่งสิ่งสำคัญในการพัฒนาองค์กรนั้นก็คือ การพัฒนาคุณภาพของบุคลากรให้มีความสามารถในการเรียนรู้ให้ดีขึ้น องค์กรไหนมีบุคลากรที่ “เรียนรู้ได้เร็วกว่า” ก็จะมีโอกาสอยู่รอดและประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนมากกว่า ดังนั้นแนวทางการพัฒนาบุคลากรจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะผลักดันแนวคิดดังกล่าวให้องค์กรพัฒนาต่อไปได้
มุมมองของมหาวิทยาลัย
บางคนอาจมีความเข้าใจผิดว่า การเรียนรู้สิ้นสุดเมื่อจบมหาวิทยาลัย แต่จริงๆ แล้วการเรียนรู้ที่แท้จริงเริ่มต้นเมื่อทำงาน ซึ่งผู้เรียนต้องมีการประยุกต์ใช้ความรู้ ต้องจัดการกับปัญหาที่ต้องใช้ความรู้หลายสาขา ต้องจัดการกับปัญหาในลักษณะปลายเปิดหรือที่มีหลายคำตอบหรือที่ขาดข้อมูลที่จะใช้ในการวิเคราะห์ ต้องจัดการปัญหาที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยหลายอย่าง ดังนั้นการเรียนรู้จึงเกิดขึ้นในทุกที่ไม่ว่าจะเป็นสถานการศึกษาหรือที่ทำงาน ในขณะเดียวกันความรู้ก็มีการสร้างขึ้นใหม่อยู่ตลอดเวลา โดยที่ความรู้ใหม่ก็มีอายุสั้นและล้าสมัยอย่างรวดเร็ว จนมีผู้เชี่ยวชาญหลายๆ คนกล่าวว่า เศรษฐกิจในปัจจุบันและในอนาคตคือเศรษฐกิจฐานความรู้หรือเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ดังนั้นการศึกษาพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ จึงเป็นสิ่งจำเป็นและต้องเกิดขึ้นตลอดเวลา โดยเฉพาะการที่ประเทศไทยเราจะสามารถก้าวเข้าไปแข่งขันกับชาติอื่นในยุคเศรษฐกิจฐานความรู้ได้นั้น ทรัพยากรบุคคลเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด การเพิ่มศักยภาพของประชากรของประเทศให้สูงขึ้นจนสามารถกล่าวได้ว่าประเทศไทยเป็นสังคมอุดมปัญญา (Knowledge society) จึงเป็นแนวทางที่จะทำให้เราสามารถสร้างภูมิคุ้มกันตนเองและสร้างความสามารถด้านการแข่งขันกับนานาชาติ และสิ่งนี้เป็นหน้าที่ของมหาวิทยาลัยด้วยเช่นกันในการเปิดโอกาสให้กับทุกๆ คนได้รับการศึกษาที่ดีขึ้น


มจธ. กับการศึกษาในภาคอุตสาหกรรม
ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ธุรกิจในเครือซิเมนต์ไทยจึงได้ร่วมมือกับมูลนิธิศึกษาพัฒน์ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี จัดตั้งโครงการทักษวิศวกรรมเคมีแบบบูรณาการ (C-ChEPS) โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2543 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน เพื่อพัฒนาพนักงานระดับปฏิบัติการที่มีวุฒิ ปวช./ปวส. ให้มีความรู้ความสามารถในการเรียนรู้ให้มากขึ้น ในปัจจุบันโครงการ C-ChEPS ได้มีการดำเนินการอยู่ 2 แห่งคือ กลุ่มปิโตรเคมิคัลที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหว้ดระยอง ที่เรียกว่าโครงการ C-ChEP และกลุ่มธุรกิจกระดาษและบรรจุภัณฑ์เครือซิเมนต์ไทย จังหวัดราชบุรี ที่มีชื่อเรียกว่าโครงการ C-Pulp ทั้งนี้เพื่อมุ่งเน้นในการพัฒนาศักยภาพพนักงานของบริษัทที่เข้าร่วมให้เป็นผู้มีความสามารถในการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Life-long Learner)
รายนามของบุคคลที่ร่วมจัดตั้งโครงการ C-ChEPS
![]() | มูลนิธิศึกษาพัฒน์ 1. คุณพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา ประธานกรรมการมูลนิธิศึกษาพัฒน์ 2. คุณแบงกอก เชาว์ขวัญยืน กรรมการมูลนิธิศักษาพัฒน์ |
![]() | มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี 1. ดร. กฤษณพงศ์ กีรติกร อธิการบดี 2. รศ.ดร. ไกรวุฒิ เกียรติโกมล อธิการบดี 3. รศ.ดร. ศักรินทร์ ภูมิรัตน อธิการบดี |
![]() | ธุรกิจปิโตรเคมิคัล 1. คุณอภิพร ภาษวัฒน์ 2. กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอส ซี จี เคมิคอล จำกัด (มหาชน) 3. คุณชลณัฐ ญาณารณพ 4. กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอส ซี จี เคมิคอล จำกัด (มหาชน) |
![]() | ธุรกิจกระดาษและบรรจุภัณฑ์ 1. คุณสมบูรณ์ ชัชวาลย์ 2. กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เยื่อกระดาษสยาม จำกัด (มหาชน) 3. คุณเชาวลิต เอกบุตร 4. กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอส ซี จี เปเปอร์ จำกัด (มหาชน) 5. คุณไพบูลย์ พงศ์ชัยฤกษ์ 6. กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์กระดาษไทย |







